วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

กาพย์เห่เครื่องคาวหวาน

๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอยหอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อนชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนาแรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚ ๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรงชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรารสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทยโอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง๏ หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลางพิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดยรสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมันน่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขมกลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็นใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำรอยแจ้งแห่งความขำ ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอมคิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบนลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอนเจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง๏ รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวงนกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน๏ ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวนใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหนผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚• เห่ชมผลไม้๏ ผลชิดแช่อิ่มโอ้ เอมใจหอมชื่นกลืนหวานใน อกชู้รื่นรื่นรสรมย์ใด ฤๅดุจ นี้แมหวานเลิศเหลือรู้รู้ แต่เนื้อนงพาล ๚๏ ผลชิดแช่อิ่มอบ หอมตรลบล้ำเหลือหวานรสไหนไม่เปรียบปาน หวานเหลือแล้วแก้วกลอยใจ๏ ตาลเฉาะเหมาะใจจริง รสเย็นยิ่งยิ่งเย็นใจคิดความยามพิสมัย หมายเหมือนจริงยิ่งอยากเห็น๏ ผลจากเจ้าลอยแก้ว บอกความแล้วจากจำเป็นจากช้ำน้ำตากระเด็น เป็นทุกข์ท่าหน้านวลแตง๏ หมากปรางนางปอกแล้ว ใส่โถแก้วแพร้วพรายแสงยามชื่นรื่นโรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา๏ หวนห่วงม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชาคิดความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร๏ ลิ้นจี่มีครุ่นครุ่น เรียกส้มฉุนใช้นามกรหวนถวิลลิ้นลมงอน ชะอ้อนถ้อยร้อยกระบวน๏ พลับจีนจักด้วยมีด ทำประณีตน้ำตาลกวนคิดโอษฐ์อ่อนยิ้มยวน ยลยิ่งพลับยับยับพรรณ๏ น้อยหน่านำเมล็ดออก ปล้อนเปลือกปอกเป็นอัศจรรยมือใครไหนจักทัน เทียบเทียมที่ฝีมือนาง๏ ผลเกดพิเศษสด โอชารสล้ำเลิศปางคำนึงถึงเอวบาง สางเกศเส้นขนเม่นสอย๏ ทับทิมพริ้มตาตรู ใส่จานดูดุจเม็ดพลอยสุกแสงแดงจักย้อย อย่างแหวนก้อยแก้วตาชาย๏ ทุเรียนเจียนตองปู เนื้อดีดูเหลือเรืองพรายเหมือนศรีฉวีกาย สายสวาทพี่ที่คู่คิด๏ ลางสาดแสวงเนื้อหอม ผลงอมงอมรสหวานสนิทกลืนพลางทางเพ่งพิศ คิดยามสารทยาตรามา๏ ผลเงาะไม่งามแงะ มล่อนเมล็ดและเหลือปัญญาหวนเห็นเช่นรจนา จ๋าเจ้าเงาะเพราะเห็นงาม๏ สละสำแลงผล คิดลำต้นแน่นหนาหนามท่าทิ่มปิ้มปืนกาม นามสละมละเมตตา ๚• เห่ชมเครื่องหวาน๏ สังขยาหน้าไข่คุ้น เคยมีแกมกับข้าวเหนียวสี โศกย้อมเป็นนัยนำวาที สมรแม่ มาแมแถลงว่าโศกเสมอพ้อม เพียบแอ้อกอร ๚๏ สังขยาหน้าตั้งไข่ ข้าวเหนียวใส่สีโศกแสดงเป็นนัยไม่เคลือบแคลง แจ้งว่าเจ้าเศร้าโศกเหลือ๏ ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือวิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย๏ ลำเจียกชื่อขนม นึกโฉมฉมหอมชวยโชยไกลกลิ่นดิ้นแดโดย โหยไห้หาบุหงางาม๏ มัศกอดกอดอย่างไร น่าสงสัยใคร่ขอถามกอดเคล้นจะเห็นความ ขนมนามนี้ยังแคลง๏ ลุดตี่นี้น่าชม แผ่แผ่นกลมเพียงแผ่นแผงโอชาหน้าไก่แกง แคลงของแขกแปลกกลิ่นอาย๏ ขนมจีบเจ้าจีบห่อ งามสมส่อประพิมพ์ประพายนึกน้องนุ่งจีบกราย ชายพกจีบกลีบแนบเนียน๏ รสรักยักลำนำ ประดิษฐ์ทำขนมเทียนคำนึงนิ้วนางเจียน เทียนหล่อเหลาเกลากลึงกลม๏ ทองหยิบทิพย์เทียมทัด สามหยิบชัดน่าเชยชมหลงหยิบว่ายาดม ก้มหน้าเมินเขินขวยใจ๏ ขนมผิงผิงผ่าวร้อน เพียงไฟฟอนฟอกทรวงในร้อนนักรักแรมไกล เมื่อไรเห็นจะเย็นทรวง๏ รังไรโรงด้วยแป้ง เหมือนนกแกล้วทำรังรวงโอ้อกนกทั้งปวง ยังยินดีด้วยมีรัง๏ ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคิดความหลังสองปีสองปิดบัง แต่ลำพังสองต่อสอง๏ งามจริงจ่ามงกุฏ ใส่ชื่อดุจมงกุฏทองเรียมร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล๏ บัวลอยเล่ห์บัวงาม คิดบัวกามแก้วกับตนปลั่งเปล่งเคร่งยุคล สถนนุชดุจประทุม๏ ช่อม่วงเหมาะมีรส หอมปรากฏกลโกสุมคิดสีสไลคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาน๏ ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวานคิดความยามเยาวมาลย์ เย็บชุนใช้ไหมทองจีน ๚

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น